วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558

ไข่พะโล้อย่างง่ายๆ

ไข่พะโล้อย่างง่ายๆ



วัตถุดิบและส่วนผสมไข่พะโล้หมูสามชั้น
            1.  ไข่ไก่ต้มสุก                6 ฟอง
            2.  หมูสามชั้น                  200 กรัม
            3.  ต้นหอม                     1 ต้น
            4.  ผักชี                         1 ต้น
            5.  ผงพะโล้สำเร็จรูป          1 ซอง
            6.  ซีอิ๊วดำ                      ช้อนโต๊ะ

วิธีทำไข่พะโล้หมูสามชั้น
            1.  จัดการล้างหมูสามชั้นให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เสร็จแล้วก็ฉีกซองผงพะโล้สำเร็จรูป ใส่หมดทั้งซองเลยค่ะ เพราะ 1 ซองสามารถทำได้ 1 ครั้ง สำหรับไข่ประมาณ 6 ฟองค่ะ  จากนั้นก็คลุกเคล้าให้เข้ากันหมักหมูทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
            2.  ต้นหอมผักชีล้างให้สะอาดซอยหยาบ ๆ เอาไว้โรยหน้าคะ
            3.  จากนั้นระหว่างรอ เราก็ไปต้มไข่กันค่ะ
            4.  พอไข่สุกก็ ตักไข่ลงไปแช่น้ำสักพักให้ไข่เย็นแล้วปลอกไข่ไว้รอค่ะ

*** เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ นะคะ เพื่อนๆ เคยเจอปัญหาเวลาต้มไข่ เสร็จแล้วเวลาเราปอกไข่ ไข่มันจะปอกยากๆ เปลือกไข่ติดเอาเนื้อไข่ออกไปด้วยไหมค่ะ วันนี้มีเคล็ดลับเวลาเราต้มไข่ ก็ให้ใส่เกลือลงไปสักครึ่งช้อนชานะคะ พอต้มจนไข่สุกแล้ว ก็ตักไข่มาแช่ไว้ในน้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิห้องธรรมดาค่ะ ให้ไข่เย็นตัว แล้วเวลาเราปอกไข่ เปลือกไข่จะไม่ติด ปอกไข่ได้ง่ายมากๆ เปลือกไข่เขาจะร่วนๆ หลุดออกมาง่ายมากเลยคะ  ลองทำกันดูนะคะ ***

            5.  ขั้นตอนต่อไปต้มน้ำให้เดือด พอน้ำเดือดก็นำหมูสามชั้นที่เราหมักไว้แล้วใส่ลงไป ตามด้วยไข่ต้มค่ะ เพื่อนๆ จะใส่เต้าหู้ลงไปด้วยก็ได้นะคะ ปกติไข่พะโล้ก็ต้องมีเต้าหู้ด้วย ใส่ซีอิ๊วดำลงไปอีกประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ พอดีว่าอยากให้ไข่พะโล้มีสีเข้มขึ้นมาอีกค่ะ หรือใครจะไม่ใส่ก็ได้นะคะ แล้วแต่ความชอบ แค่ผงพะโล้สำเร็จรูปสีก็เข้มโอเคใช้ได้แล้วค่ะ เมนูนี้ไม่ได้ปรุงรสอะไรเพิ่มเลยนะคะ แค่ผงพะโล้สำเร็จรูปซองเดียวก็เอาอยู่แล้วค่ะ รสชาติอร่อยชัวร์ค่ะ
            6.  จากนั้นก็ต้มต่อไปอีกประมาณ 30 นาที ให้หมูสามชั้นสุกและเปื่อยดีใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็ใช้ได้แล้วค่ะ พร้อมเสริ์ฟ  แต่เราใช้เวลาต้มทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมงนะคะ อยากให้ไข่มันมีสีเข้ม และน้ำมันซุปซึมเข้าไปในตัวไข่ ไข่พะโล้ยิ่งต้มนานก็ยิ่งอร่อยนะคะ แต่ถ้าใครหิวมากต้ม 30 นาทีก็พร้อมทานได้แล้วคะ


xxx

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ไข่เยี่ยวม้า

สูตรการทำไข่เยี่ยวม้า

ส่วนผสม
       ไข่เป็ด                  30 ฟอง
       เกลือแกง            800 กรัม
       ปูนขาว                750 กรัม
       น้ำ                         5 ลิตร
       ใบชา(ดำ)             80 กรัม
       โซดาแอช หรือโซเดียมคาร์บอเนต 300 กรัม
       สังกะสีออกไซต์

วิธีทำ
       1.  นำไข่เป็ดดิบที่สดและใหม่ เลือกให้มีขนาดเท่าๆ กัน อย่าล้างน้ำให้เอาผ้าแห้งหรือแปรงเช็ดหรือปัดเอาสิ่งสกปรกออก
       2.  ต้มน้ำใบชา และนำเกลือแกง กับ โซดาแอชพร้อมทั้งปูนขาว ลงไปต้มร่วมกันในภาชนะเคลือบให้เดือด คนให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ให้เย็น แล้วแยกตะกอนออกทิ้ง และเติมสังกะสีออกไซด์ 500 มิลลิกรัม/ 1 ส่วนลิตร
       3.  เรียงไข่ที่เตรียมไว้ลงในถังพลาสติก ใช้ไม้ไผ่สานขัดแตะปิดไว้เหนือไข่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่ลอย
       4.  เทส่วนผสมที่เตรียมไว้ ลงในถังให้ท่วมไข่ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 - 30 วัน
       5.  แล้วเมื่อครบกำหนด ก็นำไข่เยี่ยวม้าที่ได้ไปล้างน้ำ ปล่อยทิ้งไว้จนแห้ง แล้วเคลือบเปลือกไข่ด้วยดินขาว ผสมกับแป้งเปียก ในอัตราส่วน 5/1

ข้อแนะนำ
       ต้องเลือกไข่เป็ดที่ใหม่ สด และไม่มีตำหนิมาทำ เพื่อจะได้ไข่เยี่ยวม้าที่มีคุณภาพดี ไม่เสีย
       ภาชนะที่ใช้แช่ไข่ อาจใช้ภาชนะเคลือบก็ได้ แต่ต้องสะอาดและปลอดภัย


*โซดาแอชหรือสังกะสีออกไซด์ ขายที่ร้านขายเครื่องทำขนม* 

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557

น้ำสลัดสีชมพู : Pink Salad Dressing

น้ำสลัดสีชมพู

น้ำสลัดสูตรนี้ มีความเข้มข้นหวานมัน เหมาะจะนำไปทำเป็นน้ำจิ้มอาหารทอด หรือเป็นน้ำราดสลัดผักก็ได้ บีทรูทเป็นตัวให้สีชมพูแดงในน้ำสลัด นอกจากจะให้สีสันสวยงามแล้ว ยังมีวิตามินสูง มีคุณสมบัติในการช่วยการไหลเวียนโลหิต เป็นยาระบาย และช่วยเจริญอาหาร นอกจากนี้ หากอยากได้น้ำสลัดสีอื่นๆ ลองเปลี่ยนบีทรูทเป็น ผัก ผลไม้อื่นๆได้ เช่นใช้ฟักทอง จะได้น้ำสลัดสีเหลือง หรืองาดำสำหรับน้ำสลัดสีดำ เป็นต้น
สูตรอาหารน้ำสลัดสีชมพู ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ส่วนผสมน้ำสลัดสีชมพู
1. บีทรูทหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก 1/2 หัว
2. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
3. เกลือ 1 ช้อนชา
4. พริกไทป่น 1 ช้อนชา
5. น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
6. ไข่แดง 3 ฟอง
7. มัสตาร์ด 1 ช้อนชา
8. น้ำมันพืช 1 ถ้วย
วิธีทำน้ำสลัดสีชมพู
1. นำส่วนผสมทุกชนิด ยกเว้นน้ำมันพืชลงโถปั่น
2. ปั่นด้วยความเร็วสูงสุด จนส่วนผสมทุกอย่างเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
3. ค่อยๆ หยอดน้ำมันลงใน หม้อปั่น (หากเทน้ำมันลงทีเดียว ส่วนผสมจะไม่ข้น) หยอดจนส่วนผสมทุกอย่างข้นเป็นครีม
4. ตักใส่ภาชนะ เมื่อวางไว้สักพัก ส่วนผสมจะเป็นครีมแข็งยิ่งขึ้น
----------------------------------------------------------
Description
This salad dressing recipe has sweet and intense flavor. This sauce is perfect for eating together with fried foods. Not just look beautiful but high vitamin and it also has the ability to help blood circulation, etc. You can change from beetroot to other fruits or vegetables if you need another color of salad dressing. Such as pumpkin for yellow dressing, or black sesame for black dressing sauce.
Ingredient
1. 1/2 head Beetroot (cut into small dice)
2. Sugar 1/4 cup
3. Salt 1 Tsp.
4. Cayenne pepper 1 Tsp.
5. Vinegar 1/4 cup
6. 3 Egg Yolks
7. Mustard 1 Tsp.
8. Vegetable oil 1 cup
 
How to cook
1. Put all ingredients into a blender (except the oil).
2. Blend at maximum speed until all mixture are smooth.
3. Gradually drops the oil into the blender. (if you pour oil in one time, the mixture will not thick) drops until the mixture change to thick cream.
4. Add into a container and leave it for a while. The cream sauce will be more thick. 
 
----------------------------------------------------------
credit : foodtravel.tv

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สูตรน้ำสลัดครีมแคลอรี่ต่ำ


ส่วนผสมน้ำสลัดครีมแคลอรี่ต่ำ



  1. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ  1 ถ้วย
  2. พริกไทย 1/2 ช้อนชา
  3. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำมันสลัด 2 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
  6. กระเทียมสับ 1 ช้อนชา

วิธีทำน้ำสลัดครีมแคลอรี่ต่ำ

  • นำส่วนผสมโยเกิร์ตรสธรรมชาติ พริกไทย น้ำตาลทราย น้ำมันสลัด น้ำส้มสายชู กระเทียมสับ ใส่ในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด 

สลัดน้ำใส


ส่วนผสม
  1. ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนกินข้าว
  2. น้ำมะนาว 1 ช้อนกินข้าว
  3. น้ำตาลทราย 6 ช้อนกินข้าว
  4. มัสตาร์ดผง 1/2 ช้อนชา
  5. กระเทียมสับละเอียด 1/2 หัว
  6. น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง
  7. น้ำมันพืช 1/2 ถ้วยตวง
  8. เกลือป่น 3 ช้อนชา
  9. พริกไทย 1 ช้อนชา

วิธีทำ
  • นำส่วนผสมทุกอย่าง มาผสมรวมกัน
  • แล้วตีให้เข้ากัน
  • ชิมดูให้ออกรสเปรี้ยว - เค็ม - หวาน เป็นอันว่าใช้ได้


สลัดน้ำข้น


ส่วนผสม
  1. ไข่ไก่ (เอาเฉพาะไข่แดงนะ) 2 ฟอง
  2. เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา
  3. น้ำมันพืช 1 1/2 ถ้วยตวง
  4. นมข้น 5 ช้อนกินข้าว
  5. น้ำส้มสายชูผสมน้ำมะนาว 1/2 ถ้วย
  6. น้ำตาลทราย 5 ช้อนกินข้าว

วิธีทำ
  • ตีไข่แดงและน้ำตาลทรายจนฟู
  • แล้วใส่เกลือ และน้ำส้มสายชูที่ผสมน้ำมะนาว ตีให้เข้ากัน
  • หลังจากนั้น ให้ค่อยๆ เทน้ำมันพืชลงไป พร้อมกับตีให้เร็วๆ จนเข้ากัน
  • แล้วเติมนมข้นลงไป ตีให้แรงๆ และเร็วๆ
  • เมื่อเข้ากันดีแล้ว ก็ชิมรสตามใจชอบ

วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557

มายองเนส


สูตรที่ 1
ส่วนผสม
        ไข่แดง 2 ฟอง
        เกลือ 2 ช้อนชา
        พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
        มัสตาร์ด 1 ช้อนชา
        น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
        น้ำส้มสายชูหรือมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
        น้ำมันสลัดหรือน้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ
        1. ผสมน้ำตาลทราย เกลือ น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวคนให้ส่วนผสมละลาย
        2. ตีไข่ให้ขึ้นฟูเล็กน้อย ใส่มัสตาร์ด หยดน้ำมันพืชลงทีละน้อย (ประมาณ 2-3 หยด) ลงในส่วนผสม โดยตีส่วนผสมให้เข้ากัน ค่อยๆ ใส่น้ำปรุงรสในข้อ 1 สลับกับน้ำมัน ตีตลอดเวลาจนส่วนผสมหมดและเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน

สูตรที่ 2
ส่วนผสม

        ไข่ไก่ทั้งฟอง 1 ฟอง
        น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
        นมข้นหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
        เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
        น้ำส้มสายชูหรือมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
        พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
        มัสตาร์ด 1/2 ช้อนชา
        น้ำมันสลัดหรือน้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ
        1. ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ใส่ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ยกเว้นน้ำมันพืชไม่ต้องใส่
        2. เปิดเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ให้ส่วนผสมเข้ากันดีประมาณ 3-4 นาที ค่อยๆ เติมน้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้จนหมด (ขณะเติมน้ำมันเครื่องปั่นน้ำผลไม้ยังเปิดตลอดเวลา) ปั่นให้ส่วนผสมเข้ากันดี ประมาณ 5 นาที
        3. เทส่วนผสมที่เข้ากันใส่ลงในภาชนะเก็บใส่ตู้เย็น

สูตรที่ 3
ส่วนผสม

        ไข่แดงต้มสุก 3 ฟอง
        ไข่แดงดิบ 1 ฟอง
        มัสตาร์ด 1 ช้อนชา
        น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
        หัวหอมใหญ่สับละเอียด 1 ช้อนชา
        เกลือ 1 ช้อนชา
        พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
        น้ำส้มสายชู 4 ช้อนชา
        น้ำมันสลัดหรือน้ำมันพืช 1 ½ ถ้วยตวง
วิธีทำ
        1. ผสมน้ำตาลทราย เกลือ มัสตาร์ด พริกไทย น้ำส้มสายชูคนให้ส่วนผสมเข้ากัน (น้ำปรุงรส)
        2. ยีไข่แดงต้มสุกให้ละเอียด ใส่ไข่แดงดิบคนผสมให้เข้ากันหยดน้ำมันสลัด ลงทีละน้อยคนส่วนผสมให้ค่อยๆ ขึ้นฟู ใส่น้ำปรุงรสสลับกับน้ำมันจนหมด


เทคนิคการดูแลมายองเนส
        1. มายองเนสที่ตีเสร็จเรียบร้อยแล้วควรเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อให้มายองเนสข้นก่อนนำมาใช้ในการทำแซนด์วิช
        2. การเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท และเก็บใส่ตู้เย็นสามารถยืดอายุการเก็บมายองเนสได้นานขึ้น